วันศุกร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ปวดข้อมือ..เอ้ะ!!! ชาด้วย...ทำอย่างไรดี

โรคเส้นประสาทกดทับบริเวณข้อมือ (Carpal tunnel syndrome)


     โรคเส้นประสาทกดทับบริเวณข้อมือเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ข้อมือชาและเจ็บ โดยปกติจะพบใน
ผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย

     Carpal tunnel มีลักษณะเป็นช่องแคบอยู่ในช่องมือ ด้านล่างประกอบด้วยกระดูกข้อมือ ด้านบนจะปกคุมด้วยเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่แข็งแรง มีเส้นเอ็นและเส้นประสาทมีเดียนจะผ่านจากแขนสู่มือผ่านช่องทางนี้ เส้นประสาทมีเดียนจะทำหน้าที่รับความรู้สึกของนิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้และนิ้วกลาง อีกทั้งยังควบคุมการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อนิ้วหัวแม่มือ

สาเหตุ
     เกิดจากเนื้อเยื่อรอบเอ็นและเส้นประสาทเกิดการบวมหรือเกิดพังพืดขึ้นทำให้ไปกดทับเส้นเอ็นและเส้นประสาท

ปัจจัยชักนำมีดังต่อไปนี้
     - พันธุกรรม ขนาดของช่องทางผ่านเส้นประสาทและเอ็นจะเล็กหรือใหญ่ตามพันธุกรรมของแต่ละคน
     - การใช้ข้อมือมาก เช่น การพิมพ์เอกสาร ใช้เมาส์ แม่ค้าทำกับข้าว พนักงานขุดเจาะ
     - การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์
     - อายุ
     - โรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน, ไขข้ออักเสบ, ไทรอยด์เป็นพิษ

อาการ
     - ชา, เสียว และปวดมือ
     - รู้สึกเหมือนไฟฟ้าช็อต โดยเฉพาะนิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ และนิ้วกลาง
     - รู้สึกแปลกๆและเจ็บวิ่งจากแขนไปไหล่
     - จับของไม่ถนัดของล่วงออกจากมือ

การดูแลด้วยตนเอง
     1.การปรับพฤติกรรม
   หลีกเลี่ยงการทำงานในท่าทางเดิมเป็นเวลานานควรขยับยึดเส้นยึดสายทุก 1 - 2 ชม. ปรับองศาการพิมพ์และการใช้เมาส์ให้ถูกต้องดังรูป


     2.การยึดกล้ามเนื้อ
   การยืดกล้ามเนื้อควรทำอย่างช้าๆ ให้รู้สึกตึง เจ็บเล็กน้อยไม่มากเกินไป ให้อยู่ในภาวะผ่อนคลายและจัดท่าทางให้มั่นคง ท่าหนึ่งงควรยึดค้าง 20 –30 วินาที ทำชุดละ 5 – 10 ครั้ง วันละ 2 ชุดเป็นอย่างต่ำ ไม่จำกัดจำนวนชุด

ควรทำอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ควบคู่กับการประคบร้อนไปด้วย





     3.การประคบความร้อน
การประคบสามารถใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อนหรือกระเป๋าน้ำร้อนก็ได้  โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 20 - 45 นาที ระดับไม่ควรร้อนมากจนเกินไป ให้ร้อนพอทนได้  การยืดกล้ามเนื้อร่วมกับการประคบร้อนจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายและโลหิตจะไหลเวียนได้สะดวกยิ่งขึ้น  ส่งผลให้ของเสียต่างนำไปกำจัดได้ดีขึ้น อาการปวดต่างๆจึงหายไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น