มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่รู้ว่าเราปวดหัวศีรษะแบบไหนเพื่อที่จะหาวิธีดูแลตนเองได้อย่างตรงจุด
วันนี้เรามาดูว่าปวดศีรษะ มีแบบใดบ้าง
1.ปวดศีรษะจากความเครียด Tension headaches
เป็นแบบที่พบได้บ่อยสุด โดยจะรู้สึกปวดคงที่เป็นจุดๆหรือเหมือนโดนกดรอบศีรษะ โดยเฉพาะบริเวณกำด้น(บริเวณส่วนท้ายของศีรษะ)หรือต้นคอโดยไม่รุนแรงแบบไมเกรน ไม่ถึงขั้นคลื่นไส้ และไม่กระทบกับชีวิตประจำวันมากนัก
สาเหตุส่วนใหญ่มากจากความตึงของต้นคอและหนังศีรษะอันเนื่องมาจากความเครียด
เบื้องต้นสามารถทาน Aspirin, Ibuprofen หรือ Paracetamol เพื่อลดอาการได้
2.ปวดศีรษะคลัสเตอร์ Cluster headaches
ส่วนใหญ่พบในผู้ชาย โดยจะปวดซ้ำๆเป็นกลุ่มหรือเป็นวงกลม มีลักษณะจำเพาะโดยจะรู้ปวดแบบอ่อนเพลียเปลี้ยๆข้างนึงของศีรษะ บ่อยครั้งมีอาการร่วมด้วยกับน้ำมูกน้ำตาไหลในข้างเดียวกันระหว่างเป็นจะรู้สึกกระสับกระส่าย รู้สึกไม่สบายตัว นอนก็ไม่หาย บางคนจะมีอาการปวดไมเกรนตามมาติดๆ
สาเหตุยังไม่ทราบเป็นที่แน่ชัด แต่การรักษาอย่างถูกวิธีสามารถลดระยะเวลาและความถี่ได้
3.ปวดศีรษะจากไซนัสอักเสบ Sinus headaches
เมื่อไซนัสเกิดการอักเสบสามารถทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ โดยจะอาการตัวร้อนร่วมด้วย
การรักษาส่วนมากคือตามอาการโดยใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาลดการอักเสบ
4.ปวดศีรษะจากใช้ยาเกิน Rebound headaches
การใช้ยาแก้ปวดศีรษะมากเกินไปจะส่งผลให้เกิดการปวดศีรษะแบบนี้
โดยเฉพาะจำพวก Aspirin, Ibuprofen หรือ Paracetamol
ทางทฤษฏีเมื่อสมองได้รับยาจำนวนมาก จะเข้าสู่สภาวะกระตุ้น ซึ่งจะทำให้ปวดหัวมากยิ่งขึ้น
อีกทางนึงที่ส่งผลต่อการปวดศีรษะคือการหยุดยา ทำให้ระดับยาในกระแสเลือดลดลง
5.ปวดศีรษะไมเกรน Migraine headaches
ไมเกรนสามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ และสามารถตัวสอบด้วยตนเองได้ดังนี้
- เคยเป็นมาอย่างน้อย 5 ช่วงเวลา
- ภายในเวลาระหว่าง 4 - 72 ชั่วโมง
- มีอย่างน้อย 2 อาการตามดังนี้
: ปวดข้างเดียว, ปวดตุบ, ปวดปานกลางจนถึงรุนแรง, การปวดเป็นอุปสรรคต่อชีวิตประจำวัน
มีอาการร่วมอย่างน้อยหนึ่งอย่างดังนี้
: คลื่นไส้หรืออาเจียน, ความรู้สึกไวต่อแสง, ความรู้สึกไวต่อเสียง, ความรู้สึกไวต่อกลิ่น
ไมเกรนบางครั้งอาจมีอาการบอกเหตุก่อน เช่น มองเห็นแสงวิบวับ หรือภาพบิดเบี้ยว หรือ ชามือ ชานิ้ว
ในบทความต่อไปเราจะมาพูดถึงการดูแลตนเองต่อการปวดศีรษะแบบต่างๆ สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น