วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ปวดศีรษะจากการใช้ยาเกินกับการดูแล


ปวดศีรษะจากใช้ยาเกิน Rebound headaches

     มักพบในคนที่มีประวัติปวดศีรษะไมเกรนและปวดศีรษะจากความเครียด
การใช้ยาแก้ปวดศีรษะมากเกินไปจะส่งผลให้เกิดการปวดศีรษะแบบนี้
โดยเฉพาะจำพวก  Aspirin, Paracetamol, Caffeine, NSAIDs, Ergotamine, Triptans

    ทางทฤษฏีเมื่อสมองได้รับยาจำนวนมาก จะเข้าสู่สภาวะกระตุ้น ซึ่งจะทำให้ปวดหัวมากยิ่งขึ้น
อีกทางนึงที่ส่งผลต่อการปวดศีรษะคือการหยุดยา ทำให้ระดับยาในกระแสเลือดลดลง
ซึ่งอาการปวดศีรษะแบบนี้จะหายไปภายใน 2 เดือนหลังจากหยุดยา

    สิ่งสำคัญอีกอย่างนึงคือการควบคุมอารมณ์ อย่างลดความกลัวหรือความกังวลจากอาการปวด ลดความคุ้นเคยจากการทานยา  โรควิตกกังวล ซึมเศร้า และอารมณ์สองขั้ว

การทำงานอดิเรกที่ผ่อนคลายสามารถช่วยได้ เช่น การเลี้ยงสัตว์ การร้องเพลง การทำสมาธิ เป็นต้น

การดูแลรักษาด้วยตนเองจากอาการปวดศีรษะมีดังนี้

    1.การหยุดยาที่ใช้เกินขนาดประเภทนั้นโดยทันที
    2.การหยุดยาเดิมที่ใช้อย่างช้าๆ

การหยุดยาทั้งสองแบบอย่างอาจมีอาการถอนยาเกิดขึ้น เช่น ปวดศีรษะมากขึ้น คลื่นไส้อาเจียน ใจสั่น นอนไม่หลับ กระวนกระวาย   อาการเหล่านี้มักคงอยู่ราว 2 - 10 วัน ถ้าเกิดมีอาการรุนแรงควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ยาควบคู่กับการหยุดยา


     โรคปวดศีรษะจากการใช้ยาเกินส่วนใหญ่มากเกี่ยวเนื่องมาจากโรคปวดศีรษะจากความเครียดและโรคปวดศีรษะไมเกรน ซึ่งการดูแลไม่ให้ปวดศีรษะทั้งสองแบบเกิดขึ้น เป็นสิ่งสำคัญสูงสุดที่จะทำให้ไม่เกิดโรคนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น